เหล่าทำงานหนักทั้งหลาย ต้องมามุงกันที่บทความนี้เลย เพราะเรามีตัวทุ่นแรงเป็นอุปกรณ์สายไอทีที่เหมาะกับคนที่ต้องใช้งานหนักมาฝาก ซึ่งเราขอบอกเลยว่าแต่ละชิ้นที่เราคัดมานั้นเน้นแต่ตัวเจ๋งๆ มาทั้งสิ้น ฉะนั้น ใครที่กำลังมองหาตัวทุ่นแรงที่เป็นอุปกรณ์สายไอทีที่เหมาะกับคนที่ต้องใช้งานหนักต้องห้ามพลาดบทความนี้เลย แต่ตัวทุ่นแรงที่เป็นอุปกรณ์สายไอทีที่เหมาะกับคนที่ต้องใช้งานหนักที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ต้องตามมาดูพร้อมๆ กันเลย
อุปกรณ์ไอที ที่สายทำงานหนักต้องมี !
- อุปกรณ์ที่สายไอที ต้องมีชิ้นที่ 1 : Razer Tartarus Pro อุปกรณ์ในการคอนโทรลตัวละครในเกม แม้อุปกรณ์ตัวนี้ จะดูไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือการเรียน แต่เหล่าเกมเมอร์ตัวจริง ต้องมี ! เพราะคีย์แพดตัวใหม่ล่าสุด Razer Tartarus Pro มาพร้อมการอัปเกรดใหม่ด้วยสวิตช์ระบบ Analog Optical หรือการใช้แสงเป็นตัวควบคุมสวิตช์ เพิ่มความแม่นยำสูงกว่าสวิตช์แบบเดิม ๆ ทำให้การเล่นเกมของลื่นไหล ไม่มีสะดุด จนเกิดอาการหัวร้อน
- อุปกรณ์ที่สายไอที ต้องมีชิ้นที่ 2 : WD ฮาร์ดดิสก์แนส รุ่น WD30EFRX เหมาะสำหรับการจัดเก็บข้อมูลภายในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก หากคุณกำลังมองหา Harddisk เพื่อเก็บข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรูปภาพ ข้อมูลวีดีโอ และข้อมูลอื่น ๆ หรือกระทั่งโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเก็บไว้ในฮาร์ดดิสเช่นเดียวกัน และ WD ฮาร์ดดิสก์แนส รุ่น WD30EFRX ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะถูกออกแบบเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือการใช้เป็นไดร์ฟสำรองแบบเครือข่ายในบ้านหรือแบบเครือข่ายในสำนักงานก็ตาม
- อุปกรณ์ที่สายไอที ต้องมีชิ้นที่ 3 : Transcend USB HUB 3.0 รุ่น TS-HUB3K ขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB Device สามารถใช้งานร่วมกับ Ultrabooks และ thin-and-light laptops ที่เน้นการพกพา ทำให้ผู้ใช้งานสามารถขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB Device ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังรองรับการชาร์จพลังงานให้กับ ผลิตภัณฑ์จาก Apple พร้อมยังมีเสถียรภาพด้วยพอร์ต Output แบบ 2A
และอุปกรณ์ที่สายไอที ต้องมีชิ้นสุดท้าย คือ Logitech Laser Presentation R500 อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวลานำเสนองานของคุณ รีโมทพรีเซนส์ หรือตัวชี้เลเซอร์สีแดงสด ที่ช่วยชี้จุดที่ต้องการโฟกัสในการนำเสนองานของคุณได้อย่างแม่นยำ มาพร้อมตัวรับกระจายสัญญาณ Nano USB นำเสนองานได้อย่างอิสระไกลถึง 20 เมตร ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยี Bluetooth และการเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.4GHz อีกด้วย
